ยิ่งใหญ่แต่ไร้คนฟัง : "รอย คีน" กัปตันยอดเยี่ยม ผู้จัดการทีมยอดแย่
เว็บไหนดี มาที่นี้เลย เว็บหวยออนไลน์จ่ายจริง.com 900/95
ไม่ว่าจะมีการโหวตจากแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สักกี่ครั้ง รอย คีน ก็มักจะเป็นที่ 1 ในหัวข้อ "กัปตันทีมที่ดีที่สุดตลอดกาลของสโมสร" อยู่เสมอ
นักเตะที่ทำงานหนัก เป็นผู้นำทั้งในและนอกสนาม เปรียบเสมือนตัวแทนของผู้จัดการทีมเมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้น ทั้งหมดนี้การันตีด้วยถ้วยรางวัลมากมายหลายรายการในยุคสมัยของเขา
อย่างไรก็ตาม ความยิ่งใหญ่ของ คีน ในฐานะยอดนักเตะ ไม่ได้มีความหมายเลยในวันที่เขาเปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้จัดการทีมเอง
ความแตกต่างระหว่าง "กัปตัน" กับ "บิ๊กบอส" ในส่วนของ รอย คีน เป็นเช่นไร? ติดตามที่นี่กับ Main Stand
นักรบในสนามหญ้า
สมัย รอย คีน เป็นนักเตะ เขาคือผู้เล่นที่ทุกคนกลัว .. ด้วยคาแร็คเตอร์ที่จริงจังเอาจัง ด่าเป็นด่า ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม สิ่งเหล่านี้คือเหตุผลที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ดึงตัวเขามาจาก น็อตติงแฮม ฟอเรสต์
เฟอร์กี้ คือคนที่เชื่อเสมอเรื่องปูมหลังของนักเตะ เขาเคยกล่าวในสารคดีเรื่อง Never Give In ว่า หากอยากจะรู้ว่านักเตะคนนี้เป็นแบบไหน คุณย้อนกลับไปดูครอบครัวของเขา ตั้งแต่รุ่นพ่อจนถึงรุ่นปู่ เพราะฟุตบอลคือเรื่องของชีวิต พื้นเพของเราคือสิ่งสำคัญ นักฟุตบอลทุกคนมีตัวตนของตัวเอง
เนื่องจากตอนนั้น ยูไนเต็ด กำลังมาถึงยุคเปลี่ยนผ่าน นักเตะอย่าง คีน คือคนที่ตอบโจทย์กับแทคติกและวิธีการทำทีมของเขาเป็นอย่างมาก ฟุตบอลที่ใช้กองกลางแค่ 2 คน ดังนั้น คนที่จะยืนอยู่แกนกลางของสนามจะต้องเป็นนักเตะที่เล่นได้ทั้งเกมรับและเกมรุก มีความแน่นอนในการจ่ายบอล มีวิสัยทัศน์ในการอ่านเกม มีพละกำลังและความห้าวที่จะจัดการกับเกมบุกของฝั่งตรงข้าม และเป็นคนที่ทำให้ผู้เล่นอีกฝั่งต้องคิดแล้วคิดอีกหากพวกเขากำลังเลี้ยงบอลและเงยหน้าขึ้นมาเจอว่า รอย คีน กำลังขวางทางพวกเขาอยู่
"ความก้าวร้าวคือสิ่งที่ผมแสดงออกมาเสมอ ผมคิดว่าตัวเองไปทำสงคราม คุณไม่สามารถลงแข่งขันฟุตบอลที่เป็นเกมของลูกผู้ชายด้วยสภาพจิตใจที่หน่อมแน้มถ้อยทีถ้อยอาศัยได้หรอก" รอย คีน ยืนยันตัวตนของเขา
นั่นคือข้อดีของ คีน ที่ เฟอร์กี้ ยอมหลับตาข้างเดียวไม่สนใจข้อเสียของเขา ไม่ใช่ว่า คีน คือนักเตะที่สมบูรณ์แบบทุกๆด้าน เขาก็เองมีข้อเสียเรื่องการไม่เกรงใจใคร ซึ่งเรื่องนี้เพื่อนร่วมทีมสมัยที่เขาเล่นให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าคือคนที่ไม่มีใครสนิทด้วยมากนัก
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของ เฟอร์กี้ เพราะเขาก็ต้องการให้มันเป็นไปแบบนั้นอยู่แล้ว เขาอยากให้ คีน ควบคุมรุ่นน้องและทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง คีน จะไม่ด่าคนอื่นในสิ่งที่เขาทำไม่ได้ หากเราเปรียบ คีน เป็นใครสักตำแหน่งหนึ่งในศึกสงคราม เขาคงเป็นทหารเอกที่รับแผนการโจมตีข้าศึกมาจากแม่ทัพอย่าง เฟอร์กี้ จากนั้นก็มีหน้าที่ลงไปลุยเพียงอย่างเดียวเพื่อเอาชัยชนะกลับมา
มีประโยคหนึ่งที่แฟนบอล ซันเดอร์แลนด์ พูดถึง คีน ว่า "การสร้างทีมฟุตบอลทีมหนึ่งต้องพึ่งทั้งศาสตร์และศิลป์ สำหรับ คีน เขาคือจ่าสิบเอกที่ดีที่สุด แต่ก็นั่นแหละ เขาเป็นอะไรที่ใหญ่และรับผิดชอบกว่านั้นไม่ได้หรอก"
นั่นคือบทบาทของ คีน สมัยเป็นนักเตะ แต่ในวันที่เขาแขวนสตั๊ดเมื่อปี 2006 และรับงานคุมทีม ซันเดอร์แลนด์ ครั้งแรก เขาได้พบความแตกต่างของ การเป็นผู้นำในสนาม กับ การเป็นเจ้านาย อย่างแท้จริง
ปกครองด้วยความกลัว
ในบทบาทผู้จัดการทีม คีน ยังคงเป็นคนเดิมที่ไม่ลังเลจะตะโกนใส่นักเตะ และระเบิดความโกรธออกมาแบบไม่มีการยับยั้งชั่งใจ นักเตะของ ซันเดอร์แลนด์ ในเวลานั้นพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สิ่งที่ คีน สร้างให้กับพวกเขาไม่ใช่ความเคารพ แต่มันคือความกลัวมากกว่า
เขาไม่เคยใช้จิตวิทยาในการบอกและสอนนักเตะของเขา มีแต่เรื่องของอารมณ์ล้วนๆ และนั่นทำให้เขารวมทีมไม่ติด
แดนนี่ ฮิกกิ้นบอทแธม นักเตะของ ซันเดอร์แลนด์ ในชุดดังกล่าว และเป็นหนึ่งในนักเตะที่เคยร่วมงานกับ รอย คีน สมัยที่คนหลังยังเป็นนักเตะ คือคนที่ยืนยันเรื่องนี้ แดนนี่ บอกว่า คีน ทำตัวเหมือนกับนักเตะเป็นกระโถน ทุกครั้งที่เกิดความผิดพลาด เขาจะโมโหและตะโกนใส่เหมือนกับตอนที่เขาเป็นกัปตันทีมที่ตะโกนใส่ผู้เล่นคนอื่นในสนาม
"คีน เคยบอกกับพวกเราก่อนลงสนามว่า -จำไว้นะพวกแก โดยพื้นฐานแล้วพวกแกแม่งห่วยแตกชะมัดยาก ดังนั้น เกมนี้ไม่ต้องไปหวังจะชนะเขาหรอก ออกไปสนุกกับเกมซะ พวกแกอาจจะแพ้ แต่ขอให้สนุกกับการเป็นไอ้ห่วยก็แล้วกัน-"
นักเตะของ ซันเดอร์แลนด์ คาดเดาอารมณ์ของ คีน ไม่ถูก พวกเขาเกิดความสงสัยในตัวของผู้จัดการทีมตลอดเวลา จริงอยู่ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็เป็นคนที่ใช้ไดร์เป่าผมใส่ลูกทีม แต่ในส่วนของ คีน มันแตกต่างออกไป เขายังใหม่สำหรับเรื่องนี้ และการโมโหทุกครั้งที่เจอหน้า สร้างความรู้สึกแง่ลบให้กับลูกทีมของเขา จนกระทั่งบางคนถึงกับส่ายหัวและไม่อยากจะสนใจสิ่งที่คีนพูดเลยด้วยซ้ำ
"คุณคาดเดาอะไรกับเขาไม่ได้เลย ผมเคยจำได้ว่ามีสัปดาห์หนึ่ง เราเริ่มต้นซ้อมในวันจันทร์และมันออกมาดีมาก จากนั้นอยู่ดีๆ คีน ก็มีท่าทีไม่สบอารมณ์ สีหน้าของเขาเริ่มออก ตอนนั้นผมคิดในใจว่า -เอาแล้ว เอาแล้ว มันกำลังจะเริ่มแล้ว-" สตีเวน คัลด์เวลล์ เซ็นเตอร์แบ็กของซันเดอร์แลนด์กล่าว
"พอมีนักเตะเริ่มซ้อมหรือทำผิดพลาด เขาก็พุ่งมากรีดร้องตะโกนใส่หน้าคนๆนั้น นักเตะในทีมบางคนก็พยายามอดทนเพื่อผ่านมันไป ขณะที่บางคนก็ขวัญเสีย แต่สำหรับผู้จัดการทีมอย่าง รอย ผมพูดได้คำเดียวว่า ผมไม่เคยกล้าไว้วางใจและเชื่อใจในตัวเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว การที่คุณเป็นคนโผงผางโวยวายกับทุกเรื่อง ผมมองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ"